วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557

[OS] Just for two of us | BangDae

[FanFiction B.A.P]
Just for two of us.
Author: dryices94
Couple: Bang Yongguk x Jung Daehyun (BANGDAE)
Rate: PG-15
Author Note: สั้นนะคะ สั้นมากถึงมากที่สุดเพราะแอบแต่งในเวลาทำงานค่ะรู้สึกแปลกๆ ก็มองข้ามมันไปนะคะ =.,= #หนีงานมาแต่งฟิคเพราะใจมันอยากล้วนๆ 55555 เอนจอยรีดดิ้งค่าาาา XD






            มือใหญ่ของชายหนุ่มคนหนึ่งหมุนลูกบิดประตูเข้ามาภายในหอพักพร้อมกับร่างของใครบางคนที่พาเข้ามาด้วยกันโดยไม่ลืมที่จะหันไปกดล็อคประตูป้องกันบุคคลภายนอกเข้ามารบกวน เวลาส่วนตัว ของพวกเขาด้วย ร่างสูงไม่รอช้าผลักแผ่นหลังบางของอีกคนจนชิดกำแพงขาวก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปากร้อนที่ทาบทับลงมาบนกลีบปากอิ่มแทบจะในทันที




            รสจูบร้อนแรงที่ถูกส่งมาโดยไม่ทันตั้งตัวทำเอาคนถูกกระทำตกใจไม่น้อยอย่างไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะใจร้อนขนาดนี้ แต่จากตอนแรกที่ขัดขืนก็กลายเป็นคล้อยตาม มือเรียวโอบรอบคอของร่างสูงไว้เป็นหลักยึดเหมือนเป็นการตอบรับอยู่กลายๆ พร้อมกับวงแขนแกร่งที่เกี่ยวเอวสอบเข้ามาไว้ในอ้อมแขนจนร่างสองร่างแนบชิด ร่างบางรอรับสัมผัสจากคนที่รุกล้ำริมฝีปากของตนอย่างเต็มใจเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่อีกคนมอบให้ครั้งแล้ว.. ครั้งเล่า




            แลกลิ้นกันไปมาอยู่หลายนาทีได้ยินเสียงดูดปากกันและกันหลุดออกมาเป็นระยะ น้ำใสไหลออกมาตามมุมปากแต่วินาทีนี้ใครเล่าจะสนใจ? ความคิดถึง โหยหา ความใกล้ชิดที่ไม่ได้สัมผัสกันมานานผลักดันให้ทั้งคู่ยิ่งดำดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ที่แสนหวาน มีบ้างที่คนในอ้อมแขนครางประท้วงเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจแต่ไม่ถึงนาทีต่อมาก็กลับมาแนบสนิทกันใหม่ มือใหญ่ผละออกจากเอวบางข้างหนึ่งไล่เลื้อยลงไปจนถึงบั้นท้ายงอน บีบคลึงตามแรงอารมณ์ที่เริ่มประทุขึ้นภายในกายแต่เรียวปากของทั้งคู่ก็ยังไม่ละออกจากกันแม้แต่วินาที...




“ฉันรักนาย จอง แดฮยอน




ถ้อยคำหวานหูเอ่ยชิดริมฝีปากอิ่มดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผู้ฟัง ปลายจมูกโด่งคลอเคลียแก้มใสของร่างเล็กในอ้อมกอดอย่างอ้อยอิ่งและโหยหาซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีขัดขืน ดวงตากลมโตพริ้มลงยอมให้อีกคนสัมผัสตนได้ราวกับเป็นเรื่องปกติ




ก็จะผิดปกติได้อย่างไรในเมื่อพวกเขาเป็น คนรักกัน




ผมก็รักพี่.. พี่ยงกุก”




รัก...




รักเหลือเกิน...




แต่ความรักของพวกเขาก็เหมือนสิ่งต้องห้าม อยากจะบอกให้ใครต่อใครรู้ก็ต้องปิดบังความลับนี้เอาไว้เพราะกลัวจะกระทบกับความจริงที่เป็นอยู่ ตารางงานที่แน่นขนัดเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้พวกเขาไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้เสียเท่าไหร่ ถ้ามีโอกาสแม้เพียงแค่ได้ยืนข้างกันบนเวทีหรือได้เดินข้างๆ กันเวลาเหล่านั้นมันก็มีค่ามากเกินแล้ว




“คืนนี้อยู่ด้วยกันได้ไหม..”




เสียงทุ้มต่ำเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ว่าได้ยินเมื่อไหร่ก็ทำให้ใจดวงน้อยของแดฮยอนสั่นไหวได้เสมอ ลมหายใจร้อนผ่าวที่รินรดอยู่ข้างแก้มบ่งบอกถึงความต้องการของร่างสูงมากเพียงใดเขารู้ดีเพราะตอนนี้ร่างบางเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน..




“แล้วยองแจ...?”
.. 


“อย่างพูดถึงคนอื่น.. คืนนี้ยองแจอยู่กับจุนฮงและขอให้เวลานี้มีแค่เรา
 .

 ...

หมดสิ้นคำมาทัดทานเพียงแค่คำว่า “เรา” จองแดฮยอนก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดมาหักล้างได้อีกแล้ว ริมฝีปากอิ่มถูกปิดทับด้วยจุมพิตร้อนจากคนด้านบนอีกครั้งและในครั้งนี้เขาก็ตอบรับกลับไปอย่างหนักหน่วงไม่แพ้กันเป็นสัญญาณเริ่มต้นของอะไรอีกหลายอย่างต่อจากนี้...





ขอให้เวลานี้มีแค่เรา...




แค่เราสองคนเท่านั้น...







FIN

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[SF] Where are you... LOVE? (2) | BangDae

[FanFiction B.A.P]
Where are you…LOVE? (Part 2)
Couple: Bang Yongguk & Jung Daehyun (BANGDAE)
Rate: PG-15
Author note: พาร์ทนี้สั้นมากกกกนะ T T





            หลายคนคงคิดว่าทำไมเขาถึงยอมตกลงปลงใจมาค้างห้องคนอื่นง่ายๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งคุยกันได้ไม่ถึงสิบนาที?



หลังจากที่แดฮยอนตอบรับข้อเสนอของชายที่ชื่อ บังยงกุก ไปแล้วเขาก็เพิ่งมาคิดได้เหมือนกันว่าเราเพิ่งจะทำความรู้จักกันเพียงไม่กี่นาทีแต่ทำไมเขากลับไว้ใจที่จะฝากตัวไว้กับชายแปลกหน้าคนนี้ได้? หรือเป็นเพราะความใจดีเลยทำให้เขาไว้ใจ?



แต่บางทีคนเรามันก็ไม่มีทางเลือกนี่นา..



ถ้าเป็นในสถานการณ์ที่เขาอยู่ข้างนอกแล้วมีคนมาชวนให้ไปค้างด้วยร้อยทั้งร้อยเขาคงปฏิเสธ แต่นี่ห้องของเขาก็อยู่แค่ฝั่งตรงข้ามนี่เองแถมแดฮยอนก็ไม่ใช่คนคิดมากอะไร คนที่อยู่ห้องข้างๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น เลยคิดเสียว่ามาทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน(ห้อง)ใหม่ก็ได้



เกิดคนที่ชื่อยงกุกอะไรนี่หลอกไปทำเรื่องมิดีมิร้ายจริงๆ อย่างน้อยเขาก็มีคนให้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือได้ทั้งชั้น



พอเข้ามาในห้องของยงกุกแล้วเจ้าของห้องก็ขอตัวไปทำธุระส่วนตัวสักพักเพราะเจ้าตัวบ่นว่าออกไปข้างนอกมาทั้งวันรู้สึกเหนอะหนะตัวจะแย่ แดฮยอนเองก็ขัดอะไรไม่ได้อยู่แล้วจึงมานั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่ตรงห้องรับแขกเพราะเขาก็ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทียงกุกก็กลับออกมาอีกครั้งด้วยชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงบอลที่ดูจะสบายกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกมาก



“คุณทานอะไรมาหรือยัง? โทษทีเพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวานเลยยังไม่ค่อยมีของกินติดตู้เท่าไหร่น่ะแต่พอมีรามยอนติดมาอยู่จะเอามั้ย?”



แดฮยอนส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธพร้อมบอกกลับว่าตนนั้นได้ทานเข้ามาแล้วหลังเลิกงานและก็ขอบคุณในน้ำใจของยงกุกอีกครั้ง ตอนนี้ร่างบางนั่งอยู่บนโซฟาตรงกลางห้องพลางสำรวจรอบๆ ตัวไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้บางส่วนที่ยังจัดไม่เสร็จวางรวมกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ถูกหยิบออกมาใช่เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น



ยงกุกหายเข้าไปในห้องนอนสักพักก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าหนึ่งชุดยื่นให้กับร่างบาง เขาพยายามหาตัวที่เล็กที่สุดแล้วในบรรดาเสื้อผ้าทั้งหมดที่เขามี เห็นจะมีก็แต่เสื้อยืดกับกางเกงบ็อกเซอร์เท่านั้นหวังว่าจะพอแก้ขัดไปได้สักหนึ่งคืน



“ผมมีเสื้อผ้าไซส์เล็กสุดก็ประมาณนี้แหละ หวังว่าคุณจะใส่มันได้นะ?”



“ไม่เป็นไรครับ! แค่นี้ผมก็รบกวนคุณจะแย่แล้ว..”



แดฮยอนรับเสื้อกับผ้าขนหนูมาถือไว้ในมือแล้วยิ้มกลับไปให้เป็นเชิงขอบคุณ ร่างสูงชี้บอกว่าห้องน้ำอยู่ถัดไปจากโซนครัวร่างบางพยักหน้ารับรู้ก่อนจะขอเวลาไปทำธุระส่วนตัว ส่วนยงกุกก็นั่งจัดขอไปพลางๆ ระหว่างรอ ผ่านไปสักพักร่างที่หายไปก่อนหน้านี้ก็กลับออกมาพร้อมกับกลิ่นสบู่ที่เขาเพิ่งซื้อมาติดห้องไว้เมื่อวาน กลิ่นของมันเป็นเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ แบบที่ยงกุกชอบด้วย



ร่างของคนตัวเล็กเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นเจ้าของห้องพร้อมกับออกปากว่าจะช่วยอีกคนจัดของเป็นการตอบแทนสำหรับที่พักในคืนนี้ ว่ากันตามตรงถ้าเขาไม่เจอยงกุกล่ะก็เขาก็ไม่รู้จะไปค้างที่ไหนเหมือนกัน เพื่อนสมัยเรียนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามที่ต่างๆ ซึ่งก็จำไม่ได้ว่าที่ไหนบ้าง เพื่อนที่รู้จักและยังคงอยู่ในโซลเห็นจะมีแต่คู่รักหมาหมู จู แอนด์ แจ นี่แหละนะ



ทั้งคู่พยายามสร้างความคุ้นเคยโดยการถามไปนู่นนี่นั่นเรื่อยซึ่งคำถามก็มักจะมาจากแดฮยอนเสียส่วนใหญ่ตามประสาคนช่างคุยต่างจากอีกคนที่มียิ้มบ้างหัวเราะบ้างเวลาแดฮยอนเล่าเรื่องในวัยเด็กให้ฟัง ร่างบางสัมผัสได้ว่ายงกุกอาจจะเป็นคนไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่หรืออาจจะเป็นคนพูดน้อยแต่แดฮยอนก็ไม่ปฏิเสธว่ามันไม่ต่างจากที่เห็นภายนอกเสียเท่าไหร่



และภายหลังจากที่พูดคุยกันนั้นทำให้แดฮยอนรู้ว่ายงกุกเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับแดฮยอนแต่จบออกไปได้สามปีแล้วตอนนี้อายุ27ปี ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งแต่ต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศบ่อยๆ เลยทำให้ไม่ค่อยได้อยู่เกาหลีเท่าไหร่นัก



“อ่า.. งั้นผมต้องเรียกคุณว่าพี่สินะ (_///_)



พอรู้ว่าอีกคนแก่กว่าแถมยังพ่วงด้วยการเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันอีกแดฮยอนเลยดูจะตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ซึ่งยงกุกเองก็ไม่ถือสาอะไรออกแนวยินดีอยู่เหมือนกันที่ได้เจอรุ่นน้องร่วมสถาบันกันที่นี่ เลยได้แต่หวังว่าพวกตนจะสนิทกันในเร็ววันนี้นะ



“แล้วแต่นายจะเรียกเลย”



“ว่าแต่พี่ยงกุกกลับมาเกาหลีคราวนี้จะอยู่ถึงเมื่อไหร่เหรอครับ?”



“อืม.. ก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วแต่เจ้านายจะเรียกน่ะแต่เจ้านายที่ว่านั่นก็เพื่อนสนิทพี่เองนั่นแหละ J



ยงกุกเอ่ยตอบคนตัวเล็กส่วนมือก็กำลังหยิบหนังสือใส่ตู้ไปด้วยโดยที่มีแดฮยอนเป็นลูกมือช่วยจัดอยู่ข้างๆ



“ดีจังเลยนะฮะมีเจ้านายเป็นทั้งเพื่อนสนิทแบบนี้”



“ดีกับผีอะไรล่ะ พอรู้ว่าเป็นเพื่อนเท่านั้นแหละใช้ให้ไปดูงานประเทศนู้นทีประเทศนั้นที นี่นับรวมๆ ไม่ได้เหยียบแผ่นดินเกิดมาจะครึ่งปีแล้ว”



นับว่านั่นเป็นประโยคที่ยาวที่สุดตั้งแต่ที่แดฮยอนได้คุยกับคนๆ นี้เลยก็ว่าได้ พอเวลายงกุกพูดถึงเพื่อนตัวเองทีนี่มันเหมือนมีอะไรอัดอั้นไว้มากมายน่าดู ทำเอาร่างบางเผลอหลุดยิ้มโดยไม่รู้ตัว



“เพื่อนพี่เขาคงไว้ใจพี่ที่สุดมั้งฮะ”



แดฮยอนรับหนังสืออีกเล่มมาจากยงกุกก่อนจะยัดใส่ลงในที่ว่างข้างหนังสือเล่มหนึ่งจนมันเต็มพอดี ร่างสูงเห็นดังนั้นเลยเอ่ยสิ้นสุดการเก็บของไว้แต่เพียงเท่านี้เดี๋ยวตนจะเก็บต่อเองในวันถัดไปร่างบางเลยอาสาว่าจะมาช่วยอีกแรง ในคราแรกยงกุกก็รู้สึกเกรงใจกลัวว่าจะเป็นการรบกวนอีกคนแต่คนเด็กกว่าดึงดันว่าจะมาช่วยนั่นเลยทำให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะปฏิเสธไป



นาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะตัวเตี้ยตีบอกเวลาสามทุ่มครึ่งและเหมือนร่างบางเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาที่รายการโปรดของตนออนแอร์แล้วจึงขอร่างสูงใช้โทรทัศน์กลายเป็นว่าตอนนี้หลังจบจากการเก็บห้องทั้งคู่ก็มานั่งจับเข่ากันอยู่หน้าทีวีจนเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มทั้งสองจึงดัดสินใจเข้านอนเพราะพรุ่งนี้คงต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปขอกุญแจสำรองจากป้าเจ้าของหอและกลับมาทำธุระส่วนตัวให้ทันเวลาเข้างานของคนตัวเล็กตอนเก้าโมงเช้า



“นายนอนบนเตียงไปนะเดี๋ยวฉันนอนพื้นเอง”



ยงกุกเดินไปหยิบฟูกนอนอีกผืนในตู้มาปูลงตรงพื้นที่ว่างด้านข้างเตียง แดฮยอนเห็นดังนั้นจึงรีบเอ่ยปฏิเสธเป็นพลันวัน เขาเป็นผู้มาขออาศัยอยู่นะจะให้นอนบนเตียงของเจ้าของห้องได้อย่างไร



“ไม่เป็นไรพี่ยงกุก! เดี๋ยวผมนอนพื้นเองพี่เป็นเจ้าของห้องนะฮะจะให้มานอนพื้นแบบนี้ได้ยังไง!



ร่างบางเอ่ยหน้าตาตื่นจนยงกุกเผลอหลุดขำแต่แดฮยอนคงไม่ทันได้สังเกต เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวหรอกว่าใบหน้าเหวอๆ นั่นมันช่างดูน่ารักในสายตาอีกคนไม่น้อย



เป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่เปลี่ยนเลยนะแดฮยอน



“นั่งทำงานที่ออฟฟิศทั้งวันคงเมื่อยตัวแย่นายนอนข้างบนไปนั่นแหละแค่คืนเดียวฉันนอนพื้นแข็งๆ ได้สบายมาก”



ร่างสูงโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรจริงๆ แดฮยอนมีสีหน้าลังเลอยู่ไม่น้อยก่อนจะหันไปสบตาอีกคนประมาณว่าจะดีเหรอแต่ยงกุกก็พยักหน้ากลับมาทำให้ร่างบางจำต้องปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วล้มตัวลงนอนอย่างช่วยไม่ได้



ไฟในห้องดับลงโดยฝีมือของร่างสูงเจ้าของห้องแต่คนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหลับลงแต่อย่างใดดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ ห้องนอนที่มืดสนิท เสียงสวบสาบเวลาผ้าเสียดสีกันยามขยับตัวดังอยู่ข้างเตียงทำให้ร่างบางรู้ว่าอีกคนคงยังไม่หลับเหมือนกับตน



แดฮยอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอยู่หลายทีคงเพราะความไม่คุ้นกับสถานที่เลยทำให้หลับไม่ลงบวกกับความรู้สึกที่มันยังค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่ล้มตัวลงนอน มาคิดๆ ดูแล้วขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปยังไงคืนนี้เขาก็คงหลับไม่ลงแน่ๆ!



เมื่อตัดสินใจได้แน่แล้วร่างบางก็ตลบผ้าห่มขึ้นมานั่งก่อนจะคลานไปที่อีกฝั่งของเตียงที่ตรงพื้นด้านล่างมีร่างของอีกคนนอนอยู่ มือบางเอื้อมไปสะกิดบนต้นแขนที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาเบาๆ คนที่เหมือนจะยังมีสติอยู่ก็ลืมตาขึ้นมองสบกับคนด้านบนประมาณว่ามีอะไรหรือเปล่า แสงไฟจากนอกหน้าต่างช่วยทำให้ภายในห้องนี้ไม่มืดจนเกินไปนัก อย่างน้อยบังยงกุกก็ยังเห็นว่าใบหน้าของลูกแมวบนเตียงกำลังส่งยิ้มแห้งๆ มาให้เขาได้อย่างชัดเจน



“เอ่อคือ... ที่นอนมันก็ไม่ได้เล็กมาก...พี่ยงกุกจะขึ้นมานอนข้างบนด้วยกันก็ได้นะฮะ”



ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าสองข้างแก้มมันร้อนผ่าวขึ้นทันทีที่พูดประโยคนั้นออกไป ร่างบางมุดหน้าลงกับขอบเตียงอย่างลุ้นระทึกว่าอีกคนจะตอบกลับมาอย่างไรทั้งๆ ที่ความจริงมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าตื่นเต้นตรงไหนซึ่งแดฮยอนเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม



“คือ.. เห็นพี่ยงกุกนอนพื้นแล้วคงไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ ผมเลยรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วมันพาลให้นอนไม่หลับอ่ะ งื่อออ -///-



พูดจบก็มุดหายเข้าไปในผ้านวมผืนหนาอีกรอบราวกับกำลังเก้อเขิน(?)ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยแชร์เตียงกับใครนอนนอกจากพ่อแม่แม้แต่ยองแจก็ยังไม่เคย ไปค้างห้องเพื่อนสนิทก็ขอนอนที่พื้นตลอดเพราะเกรงใจแต่นี่เขากำลังเอ่ยชวนคนที่เพิ่งรู้จักกันยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงนอนเตียงเดียวกัน ให้ตายเถอะ! แดฮยอนอยากระเบิดตัวตาย T///T



ถึงจะไม่ใช่เตียงในห้องของตัวเองแต่ความรู้สึกเวลามีคนมาแชร์พื้นที่ข้างๆ ตอนนอนนี่เขายังไม่เคยมีและบังยงกุกเป็นคนแรก



ยงกุกที่เห็นท่าทางของคนบนเตียงก็เกิดอาการงงขึ้นมาเล็กน้อยว่าเจ้าตัวเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก? ถ้าขอเดาเอาจากที่เห็นแบบไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองเลยนะ ตอนนี้เขาคิดว่าแดฮยอนกำลัง...เขิน?



“จะดีเหรอ? แบบนั้นมันคงเบียดนายแย่”



ถามเพื่อความแน่ใจอีกรอบ เอาจริงๆ เขาก็นอนที่พื้นนี่ได้นั่นแหละอาจจะรู้สึกแปลกใหม่ไปบ้างตรงที่เปลี่ยนจากเบาะนุ่มๆ เป็นพื้นแข็งๆ แต่นั่นก็ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่สำหรับคนที่หลับได้เป็นตายอย่างเขา



“ไม่เป็นไรหรอกฮะ พี่ขึ้นมานอนข้างบนเถอะ”



ร่างบางเอ่ยพร้อมกับขยับออกไปอีกด้านเพื่อให้พื้นที่แก่อีกคนบนเตียง คราวนี้ยงกุกเองก็ดูจะตอบรับเสียง่ายๆ ดีเหมือนกันอย่างน้อยคืนนี้ก็ยังได้นอนบนฟูกนิ่มๆ แทนที่จะเป็นพื้นแข็งๆ เย็นๆ ล่ะนะถึงแม้จะไม่มีพื้นที่ให้ดิ้นเหมือนอย่างทุกคืนก็เถอะ ร่างบางยิ้มอย่างชอบใจที่คืนนี้เขาจะได้หลับแบบไม่มีอะไรค้างคาใจแล้ว



ด้วยพื้นที่บนเตียงที่มีอย่างจำกัดบวกกับกลัวอีกคนจะนอนไม่สะดวกแดฮยอนเลยเลือกที่จะนอนตะแคงข้างแต่กับกลายเป็นว่าร่างสูงดันคิดเหมือนกันเสียนี่พอพลิกตัวมาก็เลยทำให้ทั้งคู่เผลอสบตากันเข้าอย่างจัง ความเงียบกลับเข้ามาปกคลุมทุกอณูภายในห้องนอนอีกครั้ง



“เอ่อ.. ฝันดีนะฮะพี่ยงกุก”



เป็นแดฮยอนที่เอ่ยขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศชวนอึดอัดนี้เสียเอง ดวงตาคมคู่นั้นที่สบมองมาทำให้เขาทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ จึงเอ่ยราตรีสวัสดิ์อีกคนออกไปและมันคงเป็นประโยคง่ายๆ ที่พอจะนึกออกได้ในสถานการณ์แบบนี้



แต่ร่างบางคงไม่รู้หรอกว่าคำพูดที่ตนเอ่ยออกมาเพียงไม่กี่คำกลับทำให้ใจของคนฟังเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ...



“นายก็ด้วยนะแดฮยอน.. ราตรีสวัสดิ์ J



แดฮยอนไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบายแทนความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ดี แต่เขาสัมผัสได้เพียงอย่างเดียวว่าหัวใจของเขากำลังทำงานหนักมากเลยล่ะ....





ให้ตายเถอะ! คืนนี้เขาจะนอนหลับไหมเนี่ย T T





TBC.



สั้นเนอะ T T

ใครที่อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่ามันยังไม่สุดอยากให้ต่อได้อีกก็ขอโทษด้วยที่ตอนนี้มันมาได้แค่นี้จริงๆ

ตอนหน้าก็เป็นพาร์ทสุดท้ายแล้วสำหรับ Where are you LOVE? มันเป็นฟิคสั้นฉลองคัมแบครอบนี้ของหนุ่มๆ ค่ะ (เราตั้งใจว่าอย่างนั้น ฮา..)

อยากจะรวบเรื่องนี้เป็นหนึ่งตอนทีเดียวเหมือนกันแต่ตามความรู้สึกเราอยากให้มันแบ่งเป็นซีนๆ ก็เลยตัดแบ่งพาร์ทมันซะเลย แง่ม =..=


ขอบคุณที่ยังติดตามกันนะคะ *นั่งพับเพียบก้มลงกราบ*