วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

[SF] Where are you... LOVE? (1) | BangDae

[FanFiction B.A.P]
Where are you…LOVE? (Part 1)
Couple: Bang Yongguk & Jung Daehyun
Rate: PG-15
Author note: ถ้าอ่านไปแล้วรู้สึกเหมือนอารมณ์ฟิคมันขึ้นๆ ลงๆ มันเป็นตามฟิลลิ่งของเราเองค่ะ กดสุ่มเพลงไปเรื่อยๆ อารมณ์ฟิคมันเลยเหมือนสุ่มตามเพลงที่ฟังนั่นแหละค่ะ 555555555 ถ้าไม่สนุกก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย~ m(_ _)m




...ความรักมันเป็นอย่างไร?


...คนรักกันเขามีความรู้สึกแบบไหน?


...ผมอยากลองสัมผัสดูสักครั้งจัง :)



ร้อยทั้งร้อยของมนุษย์ Working Human เกลียดที่สุดและถูกบัญญัติไว้ในพจนานุกรมชีวิตคงจะเป็น “เช้าวันจันทร์” วันแรกของสัปดาห์ที่เหล่าคนเงินเดือนทั้งหลายไม่ค่อยถวิลหาเท่าไหร่นักและคิดว่าวันหยุดที่ตนได้รับมานั้นมันช่างแสนสั้นพักผ่อนยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ต้องกลับมาทำหน้าที่ประหนึ่งหุ่นยนต์ที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์ที่เรียกว่า “บอส” วนเวียนอยู่แบบนี้จากหนึ่งวันเป็นหนึ่งเดือนจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปีไปเรื่อยๆ



จอง แดฮยอน อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งหรือเรียกว่าเป็น “มนุษย์เงินเดือน” เหมือนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ชีวิตของเขาเดินเข้า-ออกบริษัทแห่งนี้นับเป็นเวลาเกือบ 6 เดือนแล้วเห็นจะได้อาจเป็นตัวเลขที่ดูเหมือนจะไม่มากแต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มฝึกงานใหม่ๆ อาจรู้สึกราวกับทำงานมาแล้ว 6 ปี “ทำงานแค่หนึ่งวันมันช่างยาวนานนัก” มักจะมาคู่กับคำว่า “ความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ”



ดวงตากลมโตหลังกรอบแว่นตาอันใหญ่กำลังจดจ่ออยู่บนจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาเกือบหลายชั่วโมงติดต่อกันแล้วเห็นจะได้พร้อมกับนิ้วเรียวที่กำลังรัวบนแป้นพิมพ์ด้วยความชำนาญกับเอกสารชุดสุดท้ายที่กำลังจะหมดลงพร้อมกับหนึ่งวันที่กำลังจะหมดไป แค่คิดในใจก็กระโดดโลดเต้นออกที่ทำงานไปแล้ว



เห็นตัวหนังสือเหลืออีกเพียงไม่กี่บรรทัดก็ถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ส่วนเรื่องตรวจทานเอกสารก็ยกให้เป็นหน้าที่ของอีกแผนกรับไปแต่แดฮยอนมั่นใจว่าเอกสารฉบับนี้ค่อนข้างมีความสมบูรณ์เกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะเขาพิมพ์เองแก้เองให้เสร็จสรรพ อย่างน้อยก็ช่วยเบาภาระของพี่ๆ อีกแผนกที่งานก็เยอะอยู่แล้วไปในตัว



นิ้วเรียวเคาะเน้นๆ ลงบนแป้นพิมพ์หลังจบประโยคสุดท้ายในหน้าเอกสารด้วยความสะใจ ในที่สุดภาระของวันนี้ก็หมดไปเสียทีเขาคิดถึงที่นอนนุ่มๆ ใจจะขาดแต่ก่อนหน้านั้นคงต้องหามื้อเย็นเลี้ยงท้องก่อนล่ะ นี่ก็หิวจะแย่แล้ว สองแขนยืดออกไปด้านหน้าเพื่อยืดเส้นสายทุบกำปั้นลงบนหลังคออีกนิดคลายเมื่อยก่อนจะหันมาเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมกลับหอแต่จังหวะที่กำลังหมุนตัวออกจากโต๊ะทำงานทำเอาแดฮยอนแทบหงายตกเก้าอี้



“เฮ่ยยย!! ยูยองแจนายมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!?



จะมีอะไรเสียอีกถ้าไม่ใช่เพราะว่าหันมาเจอเพื่อนสนิทกำลังนั่งจ้องเขาตาแป๋วทั้งๆ ที่มั่นใจแล้วว่าตนอยู่ในออฟฟิศนี้คนเดียวแน่นอนเพราะนี่มันก็เกือบหกโมงเย็นเข้าไปแล้วเพื่อนร่วมงานคนอื่นก็พากันกลับบ้านกันตั้งแต่สี่โมงเย็นตามเวลาเลิกงานปกติ ไอ้เราก็นึกว่าผีหลอกยิ่งกลัวๆ อยู่ T T



“ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็นั่งรอนายมาเกือบชั่วโมงแล้วน่ะ”



ยู ยองแจ หรือก็คือเพื่อนสนิทของแดฮยอนตอบด้วยท่าทีสบายๆ ติดจะกวนนิดหน่อยแต่ร่างบางไม่ได้ถือสาอะไรก็ยังดีที่เป็นเพื่อนมานั่งอยู่ตรงนี้ถ้าเป็นอย่างอื่นที่สัมผัสไม่ได้นี่เขาคงช็อคตายคาออฟฟิศ



“ฉันก็นึกว่านายกลับไปกับแฟนเด็กของนายแล้วเสียอีก?”



แฟนเด็กที่แดฮยอนว่านี่คือ ชเว จุนฮง ลูกชายของผู้จัดการฝ่ายการตลาดหรือก็คือหัวหน้าแผนกที่พวกเขาสองคนทำอยู่แถมพ่วงด้วยการเป็นน้องรหัสของแดฮยอนที่มหาวิทยาลัย จุนฮงอายุน้อยกว่ายองแจสองปีแต่เที่ยวตามจีบเพื่อนเขาทุกวันตั้งแต่สมัยเรียนรวมระยะเวลาเกือบหนึ่งปีเต็มจนยองแจยอมใจอ่อนนี่แหละ



“หมอนั่นติดเรียนน่ะเลยมารับช้าก็เลยอยู่รอนายก่อนนี่ไงแต่ตอนนี้มาละรออยู่ที่ลานจอดรถ”



“อ้อ... นี่ถ้าไม่ติดว่าจุนฮงมารับช้านี่นายก็คงไม่รอสินะ”



ร่างบางแสร้งทำเสียงน้อยออกน้อยใจปากอิ่มยู่ลงอย่างน่ารักจนยองแจเห็นแล้วยังอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงสองแก้มนิ่มของแดฮยอนด้วยความมันเขี้ยว



“แง่วววววว!! เจ็บนะยองแจ!! ทำไมชอบดึงแก้มนักเล่าาา”



มือบางพยายามแกะมือของเพื่อนออกจากหน้า ยองแจหัวเราะอย่างชอบใจกับท่าทางของแดฮยอนที่เหมือนแมวเสียยิ่งกว่าโคลนนิ่งยิ่งตอนนี้ยิ่งเหมือนแมวพยศเข้าไปใหญ่เห็นแล้วมันน่าฟัดเป็นบ้า



“ก็นายชอบทำหน้าแมวๆ ใส่เห็นแล้วน่ารักดี น่าแกล้ง ฮ่าๆๆๆ”



“โรคจิต!



เป็นคำสบถด่าที่น่ารักดีนะเมื่อมันออกมาจากปากจองแดฮยอนน่ะ ยองแจยิ้มขำๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกจากแก้มนั้นแต่โดยดี



“กลับกันเถอะ หิวละ!



พูดจบก็จับมือของเพื่อนร่างเล็กแล้วดึงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แดฮยอนยอมทำตามอย่างว่าง่ายโดยไม่ลืมที่จะคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินออกจากออฟฟิศไปพร้อมกัน




วันนี้ประหยัดค่ารถเมล์ได้อีกวันแล้วเรา :)


.......


ร้านอาหารเรียบง่ายริมแม่น้ำสายใหญ่ตอนช่วงใกล้พลบค่ำเป็นบรรยากาศชวนผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการโหมงานทั้งวันได้ไม่น้อย เย็นนี้ลมไม่ค่อยแรงมากถือว่ากำลังดีพอให้สดชื่นได้บ้าง พวกเขาสามคนสั่งอาหารมาคนละอย่างสองอย่างโดยลงความเห็นกันแล้วว่ามื้อนี้จะหารกันจ่ายเหมือนเดิม



เสียงหยอกล้อกันตามประสาคนมีแฟนของคู่รักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเอาร่างบางอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามกับภาพเหล่านั้น อาหารมื้อนี้สงสัยมันจะหวานจนเลี่ยนเลยล่ะ แดฮยอนคิดว่ายองแจเลือกคนไม่ผิดจริงๆ นะ จุนฮงถึงจะอ่อนกว่าเพื่อนเขาสองปีแต่บางครั้งก็มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ยิ่งกว่ายองแจเสียอีก แถมยังเป็นคนที่มีความอดทนมากจนเขายังชื่นชมเพราะเขาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละคนที่ตามจีบใครสักคนได้ถึงหนึ่งปีทั้งๆ ที่โดนด่ากลับไปสารพัดเจอการปฏิเสธไปนับไม่ถ้วน ถ้าเป็นคนอื่นไม่แน่คงถอดใจไปแล้ว



ดวงตากลมใสที่ตอนนี้ปราศจากกรอบแว่นตามาบดบังผินออกมองวิวริมฝั่งแม่น้ำแทน แสงสีจากตึกรามบ้านช่องในเมืองหลวงมองเพลินๆ มันก็สวยดี ยอมรับว่าในบางเวลาเขาก็รู้สึกเหงาอยากมีใครสักคนมาอยู่ข้างกายเหมือนอย่างคนอื่นๆ จับมือกันเดินเล่น ไปเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน คนที่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกับเรา ไม่ใช่ว่าไม่พร้อมจะมีใครแต่มันยังไม่เจอ “คนที่ใช่” ต่างหาก ถ้าเขาจะตกลงปลงใจกับใครสักคนก็ขอเป็นคนที่ใจต้องการจริงๆ ดีกว่า สารภาพกันตรงๆ เลยคือเขากลัวการสูญเสียน่ะ...



คนรักกันเขามีความรู้สึกแบบไหนกันนะ?



ไอ้อาการใจเต้นจนเหมือนหัวใจมันจะทะลุออกมาจากอกอะไรแบบนี้เขาไม่เคยเป็นกับใครนะ จะมีก็แต่ความรู้สึกดีๆ ที่หยิบยื่นให้ฉันท์เพื่อนมิตรมากกว่า สมัยเรียนหลายคนมักบอกว่าเขานั้นบ้าเรียนมากๆ เป็นเด็กแว่นหนาเตอะคนหนึ่งหน้าตาธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นออกจะจืดชืดเสียด้วยซ้ำ ไปไหนมาไหนก็มักจะพกหนังสือไปด้วยเสมอเป็นภาพที่ทุกคนในคณะเห็นจนชินตาแล้วล่ะแต่ข้อดีของแดฮยอนคือเป็นคนช่างพูดช่างจา อัธยาศัยดี เลยมีเพื่อนคบหาไม่น้อย



ตั้งแต่เกิดจนมาถึงตอนนี้เดือนหน้าแดฮยอนก็จะเข้าสู่วัยเบญจเพสแล้ว หลายคนบอกให้เขาหาใครสักคนมาดูแลเสียที เขาก็อยากมีแฟนเหมือนคนอื่นๆ นั้นแหละแต่ติดตรงที่ว่าไม่มีคนมาจีบหรือเพราะอะไรก็ตามแต่เลยทำให้เขาครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ บรรดาเพื่อนสาวของเขาก็พากันออกเรือนไปใช้ชีวิตคู่กันก็หลายคนแล้วและคาดว่าอีกไม่นานเพื่อนสนิทที่อยู่ตรงหน้าคงไม่แคล้วเป็นเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แน่นอน ก็วันก่อนจุนฮงมากระซิบแผนที่จะเซอร์ไพรส์ยองแจกับเขาน่ะสิ รู้สึกดีใจแทนเพื่อนรักล่วงหน้าเลยนะ



“กินเยอะๆ เลยนะเพื่อนรัก เดี๋ยวนี้โหมงานเสียจนผอมแล้วเนี่ย”



แดฮยอนส่งยิ้มให้แทนคำขอบคุณ ยองแจตักโน่นตักนี่ใส่จานเขาเยอะแยะเสียจนต้องรีบเอ่ยปฏิเสธก่อนที่อาหารบนโต๊ะมันจะกลายเป็นของเขาทั้งหมดแทน



“นายตักให้คนข้างตัวนายบ้างเถอะ นั่งหน้าบูดเป็นหมาอดกระดูกแล้วนั่น ฮ่าๆๆ”



“เหอะ! ไอ้หมาเนี่ยน่ะเหรอ ให้มันอดเสียบ้างก็ดีทำตัวน่าหมั่นไส้!!



“แหม่ ก็ผมอิจฉาพี่แดฮยอนเหมือนกันนี่ครับ พี่ก็เทคแคร์ผมเหมือนที่ทำกับเพื่อนพี่บ้างสิ”



พูดแล้วก็ทำตัวกระแซะร่างเล็กของคนที่ได้ชื่อว่าแฟนอย่างออเซาะ มันเป็นภาพที่น่าขันดีนะที่คนหนึ่งพยายามเรียกร้องความสนใจแต่อีกคนดันมองข้ามเสียอย่างนั้น



“นายไม่ต้องมาดูแลฉันหรอกเอาใจแฟนนายไปเถอะ”



ร่างบางหันไปเห็นสายตาของน้องรหัสที่ส่งมาเหมือนขอให้ช่วยพูดอะไรสักอย่างแล้วก็นึกสงสารเลยเอ่ยออกไปแบบนั้นยองแจถึงได้ยอมหยุดตักอาหารใส่จานเขาแล้วหันไปสนใจจานของตัวเองบ้าง



            “นายก็หาคนมาดูแลสักทีสิ~ ฉันจะได้เลิกเป็นห่วงนายเสียที”



ยองแจยื่นมือมาดึงแก้มเขาอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ แดฮยอนรู้ว่าเพื่อนคนนี้หวังดีกับเขาเสมอนั่นแหละ ร่างบางส่งยิ้มแห้งๆ กลับไป




ฉันก็อยากเจอคนๆ นั้นที่นายว่าแล้วเหมือนกันนะยองแจ...


.........


“จุนฮงนายส่งพี่แค่ตรงนี้ก็พอ”



พอรถหรูสัญชาติเกาหลีแล่นมาจนใกล้ถึงหอพักร่างบางได้ร้องขอให้รุ่นน้องส่งตนแค่ตรงนี้พอเพราะตรงปากทางเข้าหอนั้นมันมีมินิมาร์ทขนาดไม่ใหญ่มากอยู่เลยว่าจะแวะซื้อของมาเก็บไว้กินเผื่อหิวกลางดึกเสียหน่อย แดฮยอนเอ่ยขอบคุณจุนฮงที่ช่วยมาส่งอีกครั้งรวมถึงบอกลาคนทั้งสองด้วย ร่างบางยืนรอจนรถคันดังกล่าวเคลื่อนตัวไปจนลับสายตาแล้วถึงได้พาตัวเองเข้ามาในมินิมาร์ท



แดฮยอนเลือกของที่อยากกินเพียงไม่กี่อย่างใส่ลงในตะกร้าส่วนใหญ่ก็เป็นของจำพวกขนมขบเคี้ยวกับเครื่องดื่มและสิ่งที่จะต้องหยิบติดมือทุกครั้งคงหนีไม่พ้นรามยอนอาหารสำเร็จรูปหลากรสชาติที่ช่วยบรรเทาความหิวของใครหลายคนได้แทบทุกมื้อแถมยังช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้อีกหลายวอน



สองขาเดินไปตามถนนผ่านบ้านเรือนไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อนนักเพราะนี่เพิ่งจะเป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ ซึ่งก็ยังถือว่าไม่ดึกมากนักยังพอมีเวลาสำหรับเดินกินลมชมข้างทางได้อีกสักห้าถึงสิบนาที งานของวันนี้ก็เคลียร์เสร็จหมดแล้วจึงไม่มีภาระที่ต้องแบกกลับมาทำต่อที่หอคืนนี้คงนอนดูรายการโปรดได้อย่างสบายใจ



เมื่อมาถึงหน้าห้องของตัวเองที่อยู่ชั้นสี่มือข้างที่ว่างจากการถือถุงพลาสติกล้วงหากุญแจในกระเป๋าเพื่อจะปลดล็อคประตูห้องแต่จนแล้วจนรอดนอกจากของใช้ส่วนตัวแล้วก็ไม่พบสิ่งของที่ต้องการชักเริ่มใจเสียเลยกลั้นใจเทกระเป๋าออกมาดู ยังดีที่เวลานี้ไม่ค่อยมีคนออกมาเดินเพ่นพ่านเลยไม่น่าอายเท่าไหร่ ร่างบางเริ่มหวั่นใจแล้วว่าตนอาจจะลืมกุญแจไว้ที่ออฟฟิศเป็นแน่เพราะเขาเอากุญแจทุกดอกใส่พวงไว้รวมกันแล้วดูท่าว่าตนคงลืมเสียบทิ้งไว้ที่ลิ้นชักโต๊ะทำงาน



“แกแม่งโคตรสัพเพร่าเลยแดฮยอนเอ้ยยยย!!



ชายหนุ่มยีผมตัวเองอย่างหัวเสียในความไม่รอบคอบของตนเอง แล้วเขาจะเข้าห้องยังไงล่ะทีนี้!? จะโทรหายองแจขอค้างด้วยคืนนึงก็เกรงใจเพราะเห็นว่าคืนนี้เพื่อนตนจะไปนอนค้างบ้านแฟนไอ้เขาก็ยังไม่อยากไปเป็น ก ข ค คนทั้งคู่หรอกนะ แต่ถ้าจะให้เขากลับไปนอนบ้านล่ะก็ล้มเลิกความคิดนั้นไปได้เลยบ้านเขาอยู่ตั้งปูซานไปกลับใช้เวลาก็หลายชั่วโมง อีกทั้งพรุ่งนี้ยังต้องไปทำงานแต่เช้า



ครั้นจะลงไปขอกุญแจสำรองจากป้าเจ้าของหอก็ดูเหมือนแกจะกลับบ้านไปแล้วนะเพราะตอนที่เขาเดินผ่านโถงข้างล่างหอกกำลังจะขึ้นลิฟต์ก็ไม่เห็นแกแล้ว แดฮยอนได้แต่นั่งคิดไม่ตกอยู่ที่เดิมส่วนมือก็ค่อยๆ เก็บของใส่กระเป๋าอย่างปลงๆ แต่จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนก็เรียกสติของร่างบางให้หลุดจากภวังค์



“ขอโทษนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?”



ชายแปลกหน้าไม่เพียงแค่ถามเปล่าแต่ยังช่วยแดฮยอนเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นให้ด้วย ร่างบางเอ่ยขอบคุณชายคนนั้นที่มาช่วยแต่ก็รู้สึกกระดากอายเหมือนกันถ้าจะบอกไปว่าตนนั้นดันสัพเพร่าลืมกุญแจห้องไว้ที่ทำงานจนเข้าห้องไม่ได้มาถึงตอนนี้



“เอ่อ... คือ...ผมลืมกุญแจห้องไว้ที่ออฟฟิศน่ะ แหะๆ”



เอ่ยตอบเพียงแค่นี้ก็ทำให้ชายแปลกหน้าเข้าใจสถานการณ์ได้ไม่ยาก แดฮยอนเกาท้ายทอยแก้เก้อจะว่าไปแล้วตั้งแต่เขาเข้าอยู่ที่นี่เขายังไม่เคยเห็นชายผู้นี้ที่หอเลยนะ?



“คุณเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่เหรอครับ?”



ถามออกไปตามที่ตนสงสัย ชายหนุ่มใจดีตรงหน้าก็พยักหน้าตอบพร้อมกับชี้มือไปทางประตูฝั่งตรงข้ามห้องของแดฮยอน



“ผมเพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อวานน่ะ คืนนี้ถ้าไม่รังเกียจมาค้างที่ห้องผมก่อนมั้ยล่ะครับ? แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยไปขอกุญแจกับป้าเจ้าของหอ”



ชายร่างสูงยื่นข้อเสนอให้ แดฮยอนมีสีหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ไหนๆ คืนนี้ก็ไม่มีที่ไปแล้วงั้นเขาขอรับน้ำใจนั้นไว้ก็แล้วกัน..





“รบกวนด้วยนะครับ ผม.. จองแดฮยอน (_///_)



“ไม่เป็นไรครับ ผม บังยงกุก ^^






TBC.


ถ้าการบรรยายมันดูน่าเบื่อก็ขออภัยคนอ่านด้วยนะคะ *โค้ง90องศา*

สารภาพตามตรงว่าไม่ค่อยถนัดบรรยายเท่าไหร่แต่ใจอยากเขียนมากเลย TwT


ขอบคุณที่ตามมาอ่านฟิคเรานะคะ *นั่งพับเพียบก้มลงกราบ*

2 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาตส่งเสียงกรีดร้องเก้าสิบแปดเดซิเบลนะคะ
    ในที่สุดก็มีฟิคบังแด้มาให้ได้อ่านกัน > <
    บรรยายดีมากค่ะ ภาษาสวยจริง คืออ่านแล้วเห็นภาพตามเลย
    อะไรคือการที่พี่บังอ่อยน้องตั้งแต่แรกพบ เชื้อเชิญไปนอนด้วยกัน
    แล้วแดฮยอนคือใจง่าย #ทำดีค่ะ แนะนำอย่านอนอย่างเดียว ทำอย่างอื่นด้วย!
    จะได้เอ็นจอยทูสลีป กรี้ดดดดดดดดดดด จะกามแล้ว 5555555555
    รีบมาต่อไวไวนะคะ รีดเดอร์หลายคนรออยู่ค่ะ

    ตอบลบ
  2. ชอบน้าาาา บรรยายแบบนี้แหละคือเห็นภาำพตามเลย
    แดฮยอนนี่น้าาาา ขี้ลืมจริงๆ แต่ก็ดีเพราะทำให้ได้มาอยู่กับพี่บัง
    ฮิ้วววววว ฟ้าลิขิตชัดๆๆ ใครคนนั้นของแดฮยอนกำลังมาข่าาา
    แต่แดฮยอนนี่ก็ไปง่ายจังเลยยยย หวายยยยยย
    นั่นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอนะเฟร้ยยยย
    แต่ไม่เแ็นไร ในอนาคตก็คงไม่ใช่คนแปลกหน้าล้ะ พว้ายยย

    ขอพาร์ทสองด้วยค่ะ *แบมือ* 5555555555555555555555

    ตอบลบ